กรมศุลกากรยึดโคคาอีนซุกในกระเป๋าสัมภาระเข้าไทย น้ำหนัก 2,200 กรัม มูลค่า 6.6 ล้านบาท - MindFlush News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Friday, February 3, 2023

กรมศุลกากรยึดโคคาอีนซุกในกระเป๋าสัมภาระเข้าไทย น้ำหนัก 2,200 กรัม มูลค่า 6.6 ล้านบาท



กรมศุลกากรยึดโคคาอีนซุกในกระเป๋าสัมภาระเข้าไทย

น้ำหนัก 2,200 กรัม มูลค่า 6.6 ล้านบาท




วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2566 ) กรมศุลกากรจับกุมชายชาวเอธิโอเปีย ซุกโคคาอีนในกระเป๋าสัมภาระ น้ำหนัก 2,200 กรัม มูลค่า 6.6 ล้านบาท ณ สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ




นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา และบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวด ด้านกระทรวงการคลังโดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง เพิ่มความเข้มงวดและเดินหน้าปราบปรามการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาและออกนอกราชอาณาจักรทุกเส้นทาง ซึ่งกรมศุลกากรขานรับนโยบายดังกล่าว และเพิ่มความเข้มงวดในการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง




โดยเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ศุลกากร สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองสืบสวนและปราบปรามได้วิเคราะห์ข้อมูลจากสถิติการจับกุมยาเสพติดทางอากาศยานในช่วงที่ผ่านมา ตามโครงการสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) หรือ หน่วยสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานนานาชาติ ที่เป็นการผนึกกำลังของ กรมศุลกากร สำนักงาน ป.ป.ส. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย จึงได้เฝ้าระวังผู้โดยสารที่มีสัญชาติเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรและตรวจพบบัญชีรายชื่อผู้โดยสารสัญชาติเอธิโอเปีย ด้วยสายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES ซึ่งเดินทางมาจากกรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เมื่อผู้โดยสารที่ต้องสงสัยเดินทางมาถึงประเทศไทย จึงทำการตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระด้วยเครื่องเอกซเรย์ พบว่ามีสิ่งผิดปกติอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางทรงแข็ง มีล้อลาก สีดำ ขนาดประมาณ 36 x 52 เซนติเมตร จำนวน 1 ใบ ที่จัดทำช่องใส่ของบริเวณพื้นกระเป๋าขึ้นมาเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นโดยละเอียด โดยใช้ไขควงเปิดช่องลับที่บริเวณพื้นกระเป๋าเดินทาง พบถุงพลาสติกใสพันทับด้วยกระดาษกาวสีดำ จำนวน 1 ห่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้มีดคัตเตอร์กรีดถุงพลาสติกใสพันทับด้วยกระดาษกาวสีดำดังกล่าว พบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะเป็นผงสีขาว จึงได้ทดสอบผงสีขาวดังกล่าวด้วยน้ำยาทดสอบเบื้องต้นของยาเสพติดชนิดโคคาอีน (น้ำยาทดสอบ 052 Cobalt Thiocyanate Reagent) ผลการทดสอบจากสารสีใสได้กลายเป็นสารสีฟ้า เชื่อได้ว่าวัตถุต้องสงสัยเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 2,200 กรัม มูลค่า 6.6 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงทำบันทึกจับกุมและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อดำเนินคดีต่อไป




ในกรณีนี้ เป็นความผิดในการนำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ และความผิดตามกฎหมายศุลกากร มาตรา 242 มาตรา 166 มาตรา 167 และมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง







No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad




Pages