พีจีเอทัวร์กับสถิติที่น่าสนใจในเดือนมกราคม - MindFlush News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Thursday, February 8, 2024

พีจีเอทัวร์กับสถิติที่น่าสนใจในเดือนมกราคม

 พีจีเอทัวร์กับสถิติที่น่าสนใจในเดือนมกราคม

 





กุมภาพันธ์ 2567 – คริส เคิร์ก, เกรย์สัน เมอร์เรย์, นิค ดันแล็ป และมาติเยอ ปาวอน คว้าชัยชนะครั้งสำคัญในการประเดิมศักราชใหม่ฤดูกาล 2024 เริ่มที่ช็อตมหัศจรรย์เหล็ก หลุม 17 ส่งให้ คริส เคิร์ก โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน ครองแชมป์เดอะ เซนทรี ทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์ ที่ฮาวาย ซึ่งนับเป็นแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ ในอาชีพของเขา (ภาพ: Getty Images)

           

หลุม 17 ของสนามแพนเทชัน คอร์ส ที่คาปาลัว เป็นหลุมพาร์ ดาวฮิลล์ ระยะ 548 หลา ที่มีทิวทัศน์สวยงาม แต่ก็เป็นหลุมสุดท้าทายกับการตีช็อตสองข้ามน้ำ และในการแข่งขันกอล์ฟเดอะ เซนทรี รอบสุดท้ายในวันอาทิตย์ มีสถิติพิสูจน์ให้เห็นจากระยะตีออนห่างหลุมเฉลี่ย 28 ฟุต 10 นิ้ว  

           

คริส เคิร์ก ซึ่งเป็นผู้นำร่วมไม่สะทกสะท้าน แม้ทิศทางลมเปลี่ยน เขาตัดสินใจเปลี่ยนจากเหล็ก มาใช้เหล็ก ตีช็อตแอพโพรช ขึ้นไปออนห่างธงไม่ถึง ฟุต และโปรกอล์ฟวัย 38 ปี ยกให้ช็อตดังกล่าวเป็นช็อตแห่งความทรงจำสำหรับเขา

           

การเก็บเบอร์ดี้สำคัญที่หลุม 17 ช่วยให้ เคิร์ก ประเดิมคว้าแชมป์ชิกเนเจอร์ อีเวนท์สของพีจีเอทัวร์รายการแรกจาก รายการในฤดูกาล 2024 และเป็นแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการที่ ในอาชีพ โดยตลอดสัปดาห์ทำไป 30 เบอร์ดี้ เป็นสถิติทำเบอร์ดี้สูงสุดของในการเล่น 72 หลุมของโปรกอล์ฟจากรัฐจอร์เจีย และสถิติเก็บแต้มในหลุมพาร์ เพียงอย่างเดียวได้ถึง 16 อันเดอร์พาร์ ก็เป็นผลงานดีที่สุดอันดับสองของแชมป์รายการเดอะ เซนทรีฯ นับตั้งแต่ปี 1999

           

ขณะเดียวกัน เคิร์ก ยังมีเปอร์เซ็นต์การพัตต์เบอร์ดี้และเซฟพาร์สำเร็จอยู่ที่ 99.67 เป็นตัวเลขสถิติที่ดีที่สุดของเขา และดีกว่าแชมป์คนอื่นๆ ที่คาปาลัว นับตั้งแต่ปี 1999 นอกจากนี้เขายังเสียเพียงโบกี้เดียวตลอดการแข่งขันทั้งสัปดาห์ โดยเกิดขึ้นในการเล่นที่หลุม 39 และหลังจากนั้นเขาแก้คืนด้วยการทำ เบอร์ดี้ใน หลุมถัดไป โดยปิดฉากรอบสุดท้ายผลงาน อันเดอร์พาร์  65 เฉือนชนะ ซาฮิธ ธีกาลา หนึ่งสโตรก สกอร์เฉลี่ยต่อรอบ 66.67 เป็นสถิติสกอร์เฉลี่ยต่ำสุดต่อรอบของพีจีเอทัวร์ นับตั้งแต่ปี 1983

 

เกรย์สัน เมอร์เรย์ พัตต์เฉียบคมผงาดแชมป์โซนี่ โอเพ่น ที่ฮาวาย

 

เกรย์สัน เมอร์เรย์ ออกสตาร์ทการแข่งขันที่ไวอาเล คันทรี คลับ ไม่ดีนัก เสียโบกี้หลุมที่ ในการเล่น หลุมแรก แต่พลิกสถานการณ์กลับมาได้เมื่อเก็บเบอร์ดี้แรกของวันสำเร็จที่หลุม พาร์ และจากนั้นก็ทำได้ดีต่อเนื่องจนสามารถคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ ในอาชีพมาครองได้สำเร็จ

           

เมอร์เรย์ มีผลงานในสองหลุมพาร์ ของสนามไวอาเล  รวมถึงการทำเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ในรอบสุดท้ายวันอาทิตย์ได้ไปเพลย์ออฟลุ้นแชมป์กับ คีแกน แบรดลีย์ และอัน เบียง ฮุน จากนั้นมาทำเบอร์ดี้อีกครั้งในการดวลเพลย์ออฟหาแชมป์ที่หลุม 18 จากระยะ 38 ฟุต นิ้ว ขณะที่แบรดลีย์ และอัน พัตต์ไม่ลงจากระยะ 17 ฟุตและ ฟุต ตามลำดับ 

           

โปรกอล์ฟวัย 30 ปี เก็บเพิ่มรอบสุดท้ายได้อีก อันเดอาร์ 67 รวมสี่วัน 14 อันเดอร์พาร์ และผลงานตลอดสัปดาห์ เมอร์เรย์ มีสถิติการเล่นหลุมพาร์ 5 เป็นอันดับหนึ่ง (9 อันเดอร์พาร์) เก็บเบอร์ดี้หรือทำได้ดีกว่า (100 เปอร์เซ็นต์) และคะแนนเฉลี่ย (3.88)

           

แต่ไม่ใช่หลุมพาร์ เท่านั้นที่โดดเด่น เมอร์เรย์ ยังมีสถิติ  Strokes Gained: Off the Tee and Tee to Green เหนือกว่านักกอล์ฟคนอื่นๆ ในสนามนี้ และมีสถิติกรีนอินเรกูเรชันส์ เป็นอันดับสอง คิดเป็น 79.17 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นสถิติดีที่สุดเป็นอันดับสองของเขาในการเล่นอาชีพด้วย (ทั้งสองครั้งนำสู่การคว้าแชมป์)

 

แชมป์ดิ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส เปลี่ยนชีวิต นิค ดันแล็ป

 

ชัยชนะของ นิค ดันแล็ป ในรายการดิ อเมริกัน เอ็กเพรส สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกอล์ฟมือสมัครเล่นคนที่ นับตั้งแต่ปี 1940 ที่คว้าแชมป์พีจีเอทัวร์มาครอง และเป็นคนแรกในรอบ 33 ปี นับตั้งแต่ ฟิล มิเคลสัน ชนะเลิศรายการ นอร์ธเทิร์น เทเลคอม โอเพ่น ในปี 1991 ซึ่งเป็นเวลา 12 ปีก่อนที่ดันแล็ปจะลืมตาดูโลก

           

ดันแล็ป ปัจจุบันในวัย 20 ปี 29 วัน ยังกลายเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นอายุน้อยที่สุดคนที่ ที่ชนะรายการพีจีเอทัวร์ นับตั้งแต่ คริส อีแวนส์ ทำได้ในรายการเวสเทิร์น โอเพ่น ในปี 1910 โดยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอลาบามา ตัดสินใจเทิร์นโปรในสัปดาห์ต่อมา หลังขึ้นครองมือหนึ่งในระบบโปรแกรม  PGA TOUR University และได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในพีจีเอทัวร์ไปจนจบฤดูกาล 2026

           

ขณะเดียวกันการคว้าแชมป์ของดันแล็ป เกิดขึ้นในลงเล่นในพีจีเอทัวร์ รายการที่ เท่านั้น และมีนักกอล์ฟเพียง คนที่ลงเล่นน้อยกว่าแล้วได้แชมป์รายการแรก สถิติที่น่าสนใจก็คือ ดันแล็ป ซึ่งเป็นแชมป์ยูเอส อเมเจอร์ ปีนี้ ไม่ผ่านการตัดตัวในการลงแข่งในศึกพีจีเอทัวร์ รายการก่อนหน้านี้

           

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ดันแล็ปคว้าแชมป์สำเร็จอยู่ที่รอบสาม ในการเล่นที่สนามลา ควินตา คันทรีคลับ ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมหวดเพิ่ม 10 อันเดอร์พาร์ 60 จากการทำ 10 เบอร์ดี้  อีเกิ้ล และทำสถิติเทียบเท่า แพทริค คานต์เลย์ ในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำสกอร์ต่ำสุดต่อรอบ ในพีจีเอทัวร์ โดยคานต์เลย์ ที่ก้าวไปคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ ราย และแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพ ในปี 2021 เคยตี 10 อันเดอร์พาร์ ในการแข่งขันรอบสองรายการทราเวเลอร์ส แชมเปี้ยนชิพ ปี 2011   

           

ผลงานรอบที่สามส่งให้ ดันแล็ป ซึ่งเสียเพียงโบกี้เดียวในสามวันแรก ขึ้นนำ สโตรก ในการเข้าสู่การเล่น  18 หลุมสุดท้าย ก่อนปิดฉากด้วยชัยชนะเหนือคู่แข่ง สโตรก ทำสกอร์รวม 29 อันเดอร์พาร์ เป็นสกอร์ต่ำสุดของนักกอล์ฟสมัครเล่นในพีจีเอทัวร์ นับตั้งแต่ปี 1983 และดีกว่าสถิติเดิม 11 สโตรก  

 

มาติเยอ ปาวอน ซิวแชมป์พีจีเอทัวร์แรกในรายการฟาร์เมอร์ส อินชัวแรนซ์ โอเพ่น

 

มาติเยอ ปาวอน ใช้เวลา ปีกับการลงเล่นในยุโรป ก่อนคว้าแชมป์ดีพี เวิลด์ ทัวร์ รายการแรก ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้วในการแข่งขันรายการ Acciona Open de Espana แต่โปรหนุ่มชาวฝรั่งเศสไม่ต้องรอนานเมื่อเข้ามาเป็นสมาชิกในพีจีเอทัวร์ปี 2024  

           

ปาวอน ลงเล่นในฐานะสมาชิกพีจีเอทัวร์เป็นรายการที่ เท่านั้น (รวมทั้งหมด 11 รายการ) เมื่อเขาทำเบอร์ดี้หลุม 18  ที่สนามเทอร์เรย์ ไพนส์ คว้าแชมป์ฟาร์เมอร์ส อินชัวแรนซ์ โอเพ่น ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับศึกดีพี เวิลด์ ทัวร์ ซึ่งเขาลงเล่น 185 รายการ กว่าจะได้แชมป์แรก

           

โปรกอล์ฟหนุ่มจากฝรั่งเศสวัย 31 ปี ยิงเบอร์ดี้ระยะ ฟุตที่หลุม 18 แก้มือจากที่เสียโบกี้หลุม 17 และปิดฉากรอบสุดท้ายด้วยกอร์ อันเดอร์พาร์ 69 ทำสกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ มีสถิติตีเฉลี่ยสามรอบแรกที่สนามนี้ 68.7 เป็นสถิติสกอร์เฉลี่ยต่ำสุดของแชมป์รายการนี้ เทียบเท่า จอน ราห์ม  นับตั้งแต่ปี 2003

 

ปาวอน ได้พีจีเอทัวร์การ์ด หลังจบฤดูกาลด้วยอันดับ ในปีแรกที่ให้สิทธิ์นักกอล์ฟจาก 10 อันดับแรกของดีพี เวิลด์ ทัวร์ เข้าไปแข่งในพีจีเอทัวร์ และประเดิมซีซั่นด้วยอันดับ 7 ที่ฮาวาย จากนั้นในรายการดิ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส เขาทำ 25 เบอร์ดี้ เป็นสถิติทำเบอร์สูงสุดในอาชีพของเขาในพีจีเอทัวร์ และอีก 21 เบอร์ดี้ที่ทอร์เรย์ ไพนส์ 

           

ในการแข่งขันตลอดสัปดาห์ที่ทอร์เรย์ ไพนส์ ปาวอน สร้างโอกาสทำเบอร์ดี้มากมาย มีสถิติกรีนอินเรกูเรชั่น 40 จาก 54 และมีค่าเฉลี่ย Strokes Gained: Putting อยู่ที่ +1.99 เป็นสถิติดีที่สุดเป็นอันดับสามของตำแหน่งแชมป์รายการนี้นับตั้งแต่ปี 2004 นอกจากนี้เขายังมีสถิติพัตต์ระยะไกลดีที่สุดในสนาม พัตต์ลง ครั้งจากระยะมากกว่า 20 ฟุต

 

 


No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad




Pages